top of page

รู้หรือไม่ จุลินทรีย์ในลำไส้สำคัญมากกว่าที่คิด🦠

รูปภาพนักเขียน: Doctor Anywhere ThailandDoctor Anywhere Thailand

จุลินทรีย์จำนวนมากในลำไส้ไม่ได้เป็นแค่ทำหน้าที่ย่อยอาหารเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพของร่างกายของเราด้วย โดยจุลินทรีย์เหล่านี้เรียกว่า จุลินทรีย์ในลำไส้ (gut microbiome) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนอวัยวะเสริมที่จำเป็นในการรักษาสุขภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็นในด้านระบบภูมิคุ้มกัน สมอง หรือสุขภาพโดยรวม


จุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome) คืออะไร?


คำว่า “จุลินทรีย์” หมายถึง กลุ่มของแบคทีเรีย, ไวรัส, เชื้อรา และจุลินทรีย์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ภายในและภายนอกร่างกายของเรา ส่วนใหญ่จะอยู่ในลำไส้ของเราโดยเฉพาะในกระเปาะของลำไส้ใหญ่ ซึ่งแบคทีเรียนี้มีมากถึง 40 ล้านล้านเซลล์ หมายความว่าในตัวเรามีแบคทีเรียมากกว่าจำนวนเซลล์ของมนุษย์ที่มีประมาณ 30 ล้านล้านเซลล์!


จุลินทรีย์ในลำไส้ประกอบด้วยแบคทีเรียมากถึง 1,000 สายพันธุ์ แต่ละชนิดมีหน้าที่เฉพาะของมัน แม้ว่าบางชนิดอาจทำให้เกิดโรค แต่ส่วนใหญ่เป็นประโยชน์ในการช่วยย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และช่วยในการควบคุมการทำงานที่สำคัญของร่างกาย


จุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?


ตั้งแต่แรกเกิด จุลินทรีย์ในลำไส้ก็เริ่มมีบทบาทในการควบคุมสุขภาพของเรา และจะมีความหลากหลายมากขึ้นตามกาลเวลา เพราะผลกระทบจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาหาร สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิต โดยการที่มีจุลินทรีย์ในลำไส้ที่หลากหลายเป็นสัญญาณของสุขภาพที่ดี มาดูกันว่าจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง:


ผลกระทบต่อสุขภาพเฉพาะจากจุลินทรีย์ในลำไส้


  • การควบคุมน้ำหนักและการเผาผลาญ

    จุลินทรีย์ในลำไส้มีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนักและการเผาผลาญโดยการส่งผลต่อการดึงพลังงาน การเก็บไขมัน การควบคุมความอยากอาหาร และการอักเสบ จุลินทรีย์ในลำไส้ที่ไม่สมดุล (dysbiosis) อาจทำให้เกิดน้ำหนักเกิน ความผิดปกติทางการเผาผลาญ และการอักเสบเรื้อรัง


  • สุขภาพลำไส้

    จุลินทรีย์ในลำไส้มีบทบาทในโรคต่าง ๆ เช่น อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) และโรคลำไส้อักเสบ (IBD) แบคทีเรียที่ดี เช่น Bifidobacteria และ Lactobacilli สามารถบรรเทาอาการและช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันในลำไส้


  • สุขภาพหัวใจ

    จุลินทรีย์ในลำไส้บางชนิดผลิตสารเคมี เช่น trimethylamine N-oxide (TMAO) ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการทำให้หลอดเลือดตีบ แต่แบคทีเรียที่ดี เช่น Lactobacilli ที่พบในโพรไบโอติกส์ อาจช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและสนับสนุนสุขภาพหลอดเลือด


  • การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและโรคเบาหวาน

    จุลินทรีย์ในลำไส้สามารถส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด งานวิจัยพบว่าการขาดความหลากหลายของจุลินทรีย์ในลำไส้เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภท 1 นอกจากนี้ยังพบว่าการเปลี่ยนแปลงในจุลินทรีย์อาจอธิบายได้ว่าทำไมการตอบสนองต่อน้ำตาลในเลือดจากอาหารเหมือนกันจึงแตกต่างกันในแต่ละคน


  • สุขภาพจิต

    แบคทีเรียในลำไส้สามารถผลิตสารสื่อประสาท เช่น เซโรโทนิน ที่ส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์และสุขภาพจิต มีวิจัยล่าสุดค้นพบว่าสุขภาพลำไส้สามารถส่งผลกระทบต่อโรคทางจิตใจ เช่น ความวิตกกังวล, ภาวะซึมเศร้า, และแม้แต่โรคทางระบบประสาท


วิธีการสร้างสมดุลให้จุลินทรีย์ในลำไส้


  • ทานอาหารที่หลากหลาย: รวมผลไม้ ผัก ถั่ว และธัญพืชเต็มเมล็ดเพื่อส่งเสริมความหลากหลายของจุลินทรีย์

  • ควบคุมปริมาณของน้ำตาลสังเคราะห์: ความหวานสังเคราะห์อาจทำให้แบคทีเรียที่ไม่ดีเติบโต

  • ทานอาหารที่มีพรีไบโอติก: เช่น กล้วย และข้าวโอ๊ตที่ช่วยหล่อเลี้ยงแบคทีเรียที่ดี

  • ทานอาหารที่มีโพรไบโอติก: โยเกิร์ต ผักดองทุกชนิด และคอมบูชาหรือชาหมัก เพราะมีแบคทีเรียที่ดี เช่น Lactobacilli และช่วยลดจำนวนแบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคในลำไส้

  • ลองทานอาหารจากพืช: อาหารมังสวิรัติสามารถลดระดับของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและการอักเสบ

  • ทานอาหารที่มีโพลีฟีนอล: เช่น ไวน์แดง, ชาเขียว, และช็อกโกแลตดำ สามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดี

  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็น: ยาปฏิชีวนะสามารถทำลายทั้งแบคทีเรียที่ดีและไม่ดี ดังนั้นควรใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ



จุลินทรีย์ในลำไส้เป็นส่วนสำคัญของสุขภาพโดยรวม ตั้งแต่การย่อยอาหารไปจนถึงการทำงานของสมอง การรักษาจุลินทรีย์ในลำไส้ให้หลากหลายและสมดุลผ่านการเลือกอาหารและวิถีชีวิตที่ดีสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง หากสงสัยเพิ่มเติมสามารถปรึกษาบนแอป Doctor Anywhere ได้เลย💙


ดู 150 ครั้ง0 ความคิดเห็น

โพสต์ล่าสุด

ดูทั้งหมด

Comments


bottom of page